บรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวอินเดีย
คณะสงฆ์ไทย ร่วมกับ ชมรมไตรรัตนภูมิ และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธไทย-อินเดีย จัดกิจกรรม
บรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวอินเดีย
วันที่ 9 ธันวาคม 2566 พระครูสมุห์สนิทวงศ์
วุฑฺฒิวํโส, ดร. ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กร
วัดพระธรรมกาย จังหวัดปทุมธานี ได้เปิดเผยว่า คณะสงฆ์ไทย ร่วมกับ ชมรมไตรรัตนภูมิ
และเครือข่ายองค์กรชาวพุทธไทย-อินเดีย จัดกิจกรรม “ปลูกหน่อพุทธบุตร สืบพระศาสนา
สู่แดนพุทธภูมิ” บรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวอินเดีย อันเป็นกิจกรรมหนึ่งในโครงการ
“พลิกฟื้นคืนพุทธธรรมสู่พุทธภูมิ” และยังถือเป็นโอกาสมงคลที่จะได้ถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ
เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา
ในโอกาสวันคล้ายวันประสูติ 7 ธันวาคม 2566 และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาส ราชนครินทร์ ในโอกาสครบ 100 ปี วันประสูติ 6
พฤษภาคม 2566 กิจกรรมจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2566 ถึง 15 มกราคม 2567
ทั้งนี้เมื่อวันที่
7 ธันวาคม ที่ผ่านมา นายนาเคศ ซิงห์ เอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย
ในนามตัวแทนชาวอินเดียทั้งประเทศ
ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีสมโภชผ้าไตรพระราชทานและพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล
เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา
นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ณ พระอุโบสถ วัดธาตุทอง
เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ด้วย
สำหรับการบรรพชาอุปสมบทหมู่ชาวพุทธอินเดียในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่อกิจกรรม
“ปลูกหน่อ พุทธบุตร สืบพระศาสนา สู่ดินแดนพุทธภูมิ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ
“พลิกฟื้นคืนพุทธธรรมสู่พุทธภูมิ” ที่ทางชมรมไตรรัตนภูมิ วัดธาตุทอง, มูลนิธิกากัน
มาลิก, มูลนิธิอาชเรย์
ร่วมกับภาคีเครือข่ายองค์กรทางพระพุทธศาสนา 2 ประเทศ (ไทย - อินเดีย)
ได้จัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเผยแผ่และฟื้นฟูพระพุทธศาสนากลับสู่ดินแดนมาตุภูมิ
ซึ่งมีกิจกรรมที่ดำเนินการไปแล้วและยังดำเนินการอยู่อีกมากมาย เช่น กิจกรรม
84,0000 พระพุทธปฏิมาคืนลมหายใจพระพุทธศาสนาสู่แดนพุทธภูมิ
เป็นกิจกรรมส่งมอบพระพุทธรูปจากพุทธศาสนิกชนไทยให้กับอาราม-วิหาร
ชุมชนชาวพุทธทั่วประเทศอินเดีย ซึ่งขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 40 เปอร์เซ็นต์,
กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงพุทธทั่วประเทศอินเดีย
เพื่อให้ชาวพุทธจากทั่วโลกได้เห็นว่าในประเทศอินเดียไม่ได้มีพุทธสถานเฉพาะแค่ในแถบพื้นที่
4 สังเวชนียสถาน ที่ชาวพุทธไทยส่วนมากรู้จัก
แต่หากยังมีพุทธสถานโบราณอีกมากมายทั่วประเทศอินเดีย และบางแห่งยังคงวิถีชาวพุทธอยู่กว่า
1000 ปี ไม่เคยจางหาย, กิจกรรมธุดงค์ธรรมยาตรา
ที่จัดในพื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของอินเดีย และได้รับความสนใจจากชาวพุทธอินเดียจำนวนมาก
ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากสถานเอกอัครราชทูตอินเดีย
ประจำประเทศไทย กระทรวงการท่องเที่ยว รัฐบาลอินเดีย และหน่วยงานองค์กรต่าง ๆ
ของไทย เช่น สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี กรมการศาสนา
กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม โครงการกำลังใจ กระทรวงยุติธรรม
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย คณะพระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย - เนปาล ฯลฯ
กิจกรรม
“ปลูกหน่อพุทธบุตร สืบพระศาสนา สู่แดนพุทธภูมิ”
นำชาวพุทธอินเดียที่ถือเป็นลูกหลานทายาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มาเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเพื่อเรียนรู้หลักธรรมคำสอนและแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องของพระพุทธศาสนาแบบเถรวาท
ซึ่งในครั้งนี้มีชาวพุทธอินเดียเข้าร่วมกิจกรรมบรรพชาอุปสมบทจำนวน 47 ท่าน
ถือเป็นครั้งที่ 4 ที่ทาง พระราชวรญาณโสภณ เจ้าอาวาสวัดธาตุทอง
ได้มีโอกาสดำเนินการ โดยในครั้งนี้ได้รับเมตตาจาก สมเด็จพระธีรญาณมุนี
เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาส กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานอุปถัมภ์ พระพรหมวชิรากร
เจ้าอาวาสวัดราชผาติการาม กรรมการมหาเถรสมาคม เป็นประธานคณะทำงาน
และยังได้รับเมตตาจากพระเถรานุเถระ พระสังฆาธิการ
พระภิกษุสงฆ์ทุกภาคส่วนทั้งปริยัติและปฏิบัติ และเรื่องที่เป็นมหามงคลอีกประการคือ
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานผ้าไตร จำนวน
1 ไตร และเครื่องไทยธรรม 1 ชุด ถวายพระอุปัชฌาย์ และพระราชทานผ้าไตรจำนวน 47 ไตร
แก่ผู้อุปสมบท นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดไม่ได้
ระหว่างการอุปสมบทผู้เข้าร่วมโครงการจะได้เรียนรู้พระธรรมวินัย
วิถีชาวพุทธแบบเถรวาท และการศึกษาดูงานพุทธสถานสำคัญต่าง ๆ
ภาควิชาการได้รับความร่วมมือจาก มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
และมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในการส่งพระวิทยากร
/ วิทยากรเพื่อถวายความรู้แก่พระนวกะทั้งภาษาอังกฤษและภาษาฮินดี
ภาคปฏิบัติมีกิจกรรมธุดงค์ธรรมยาตรา จากจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถึงจังหวัดนครสวรรค์
ซึ่งได้รับเมตตาจาก พระพรหมวชิรากร พระราชวัชรวิสุทธิวงศ์
พร้อมพระเถรานุเถระผู้มีภูมิรู้ภูมิธรรมอีกมากมาย อาทิ พระธรรมศากยวงศ์วิสุทธิ์,
ดร., พระเทพมงคลโสภณ, พระเทพวชิรสุนทร,
พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ฯลฯ
ร่วมอบรมสั่งสอนและถ่ายทอดความรู้อันจะเป็นประโยชน์แก่การฟื้นฟูพระพุทธศาสนากับสู่ประเทศอินเดียอีกครั้ง
โดยตลอดระยะเวลาจัดกิจกรรม นายกากัน มาลิก หรือ ทิดกากัน (อดีตพระกากัน อโสโก)
นักแสดงชาวอินเดียผู้เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา เป็นที่รู้จักของคนไทยจำนวนไม่น้อยและเคยมาอุปสมบทที่วัดธาตุทอง
เมื่อปี 2565 เป็นเวลา 99 วัน จะรับหน้าที่เป็นโยมอุปัฏฐาก
ร่วมถวายความรู้และประสบการณ์ต่าง ๆ แก่พระนวกะทั้ง 47 รูป
ตลอดโครงการด้วย
นายกากัน มาลิค กล่าวว่า “ชาวพุทธอินเดีย
ที่ได้สมัครเข้าร่วมโครงการบรรพชาอุปสมบทในครั้งนี้ มีความแน่วแน่
ตั้งใจฝึกซ้อมท่องจำคำขานนาคที่มีการออกเสียงแบบภาษามคธ
ตามที่คณะสงฆ์ไทยได้เน้นย้ำ ซึ่งมีความใกล้เคียงกับภาษาท้องถิ่นของตนอย่างมาก
และนอกจากนี้ยังมีคณะจิตอาสาชาวอินเดียอีกจำนวนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยอุปัฏฐาก
คณะพระนวกะในครั้งนี้
ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญที่ทำให้ชาวอินเดียจำนวนไม่น้อยหันมาให้ความสำคัญ
และตระหนักถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนาในประเทศตน” ทั้งนี้นายกากัน
ยังกล่าวถึงความรู้สึกปราบปลื้มอย่างหาที่สุดมิได้ ในการที่
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทาน
ผ้าไตรให้กับชาวอินเดียที่จะเข้าอุปสมบททั้ง 47 คน ด้วย.
ข่าว อนุธิดา
ศิริบำรุง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น